เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [22.มหานิบาต] 5.มโหสธชาดก (542)
(พราหมณ์เกวัฏจึงกราบทูลว่า)
[602] ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นใหญ่แห่งชน คนผู้ไม่สุภาพ
ไม่ชื่นชมกับใคร เป็นคนกระด้าง ไม่ชื่อว่าเป็นสัตบุรุษ
เขาไม่กล่าวข้อความอะไร ๆ เป็นเหมือนคนใบ้และคนหนวก
(พระเจ้าวิเทหะได้สดับดังนั้น ไม่ทรงยินดี ไม่ทรงคัดค้าน เริ่มตั้งคำถามขึ้น
เองว่า)
[603] มนต์บทนี้เห็นได้ยากแน่นอน
มโหสธผู้มีความเพียรได้เห็นประโยชน์อันบริสุทธิ์
จริงอย่างนั้น กายของเราก็ยังหวั่น ๆ อยู่
ใครเล่าจักทิ้งแคว้นของตนไปสู่เงื้อมมือของผู้อื่น
(พระเจ้าวิเทหะตรัสถามมโหสธบัณฑิตโพธิสัตว์ว่า)
[604] มติของเราทั้ง 6 คนผู้เป็นบัณฑิต
มีปัญญายอดเยี่ยม เป็นเอกฉันท์เสมอกัน
มโหสธ แม้เธอก็จงลงมติว่า ควรไปหรือไม่ควรไป
หรือควรยับยั้งอยู่ที่นี้
(มโหสธบัณฑิตโพธิสัตว์ได้ฟังพระราชดำรัสดังนั้น คิดแล้วได้กราบทูลว่า)
[605] ข้าแต่พระราชา พระองค์ย่อมทรงทราบอยู่ทีเดียวว่า
พระเจ้าจูฬนีพรหมทัตทรงมีอานุภาพมาก มีพลังมาก
และปรารถนาจะปลงพระชนม์พระองค์
เหมือนนายพรานเนื้อด้วยนางเนื้อ
[606] ปลาอยากกินเหยื่อสดกลืนเบ็ดที่ใช้เหยื่อปกปิดไว้
ก็ไม่รู้ว่าตนจะตายฉันใด
[607] ข้าแต่พระราชา พระองค์ทรงติดอยู่ในกาม
ก็ย่อมไม่ทรงทราบพระธิดาของพระเจ้าจูฬนี
เหมือนปลาไม่รู้จักว่าตนจะตายฉันนั้นเหมือนกัน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :276 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [22.มหานิบาต] 5.มโหสธชาดก (542)
[608] ถ้าพระองค์จะเสด็จไปแคว้นปัญจาละ
ก็จักเสียพระองค์ไปในทันที ภัยใหญ่จักมาถึงพระองค์
เหมือนภัยคือความตายมาถึงเนื้อที่เดินไปตามทาง1
(พระเจ้าวิเทหะถูกมโหสธบัณฑิตโพธิสัตว์ข่มมากเกินไป จึงทรงกริ้วแล้ว
ตรัสถามว่า)
[609] พวกเรานั่นแหละผู้กล่าวถึงประโยชน์อันสำคัญกับท่าน
กลับเป็นคนโง่ บ้าน้ำลาย
ท่านเล่าเติบโตมาด้วยหางไถ2
จะรู้ประโยชน์เหมือนคนอื่น ๆ ได้ละหรือ
(พระเจ้าวิเทหะด่าบริภาษมโหสธบัณฑิตโพธิสัตว์ เมื่อจะขับไล่ จึงตรัสว่า)
[610] ท่านทั้งหลายจงไสคอมโหสธบัณฑิตนี้
ผู้พูดเป็นอันตรายแก่การได้รัตนะของเรา
ขับไล่ให้พ้นไปจากแคว้นของเรา
(พระศาสดาเมื่อจะทรงประกาศข้อความนั้น จึงตรัสว่า)
[611] ลำดับนั้น มโหสธบัณฑิตก็หลีกไปจากราชสำนัก
ของพระเจ้าวิเทหะ ต่อมา ก็ได้เรียกนกแขกเต้าตัวฉลาด
ที่ชื่อมาธุระ ที่เป็นทูตมาสั่งว่า
[612] มานี่เถิด สหายผู้มีขนปีกสีเขียว
เจ้าจงทำการขวนขวายช่วยเหลือเรา
มีนางนกสาลิกาที่เขาเลี้ยงไว้ใกล้ที่บรรทมของพระเจ้าปัญจาละ

เชิงอรรถ :
1 เนื้อที่เดินไปตามทาง หมายถึงฝูงเนื้อป่าได้ยินเสียงนางเนื้อต่อที่นายพรานฝึกไว้ดีแล้วร้องขึ้น ก็จะเดิน
เข้าไปหาด้วยความกำหนัด จะถูกนายพรานแทงถึงแก่ความตาย (ขุ.ชา.อ. 9/608/340)
2 เติบโตมาด้วยหางไถ หมายถึงมโหสธบัณฑิตบุตรของคหบดีจับหางไถเจริญเติบโตมาตั้งแต่วัยเด็ก
(บุตรชาวนาจะรู้เรื่องอะไร) (ขุ.ชา.อ. 9/609/341)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :277 }